เรื่องย่อ Volibear พายุที่ไร้ปรานี
โวลิเเบร์ เป็นน้องเล็กสุดในหมู่ครึ่งเทพ เหล่ามนุษย์ต่างรู้จักนามของเขาในฐานะสายฟ้าคำราม วัลฮีร์ หรือเทพสงคราม นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์เเห่งการทำลายล้าง ความเเข็งเเกร่งเเล้ว โวลิเเบร์ยังเป็นตัวเเทนของพลังเเละความกราดเกรี้ยวเเห่งเฟรย์ลยอร์ดที่ไม่มีผู้ใดหยุดยั้งได้ การปะทะกันของเขากับออร์น ทำให้เขาพ่ายเเพ้เเล้วชื่อเสียงของเขาหายไปพร้อมกับชื่อของเขา เเต่เหล่าผู้รู้ทั้งหลายต่างก็ยังคงคิดอยู่ตลอดว่าเขาต้องกลับมาในสักวันในฐานะผู้ทำลายล้างอีกครั้ง
ชีวประวัติ Volibear พายุที่ไร้ปรานี
บ้างก็รู้จักเขาในฐานะสายฟ้าคำราม มหาพายุ หรือวัลฮีร์ บ้างก็รู้จักเขาในฐานะซากหายนะ หมีหนึ่งพันรอยบาก หรือผู้คงกระพัน แต่สำหรับชาวเผ่าส่วนใหญ่ที่ยังยึดมั่นในวิถีดั้งเดิม เขาเป็นที่รู้จักในชื่อโวลิแบร์
นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการทำลายล้าง ความแข็งแกร่ง และพายุโหมแล้ว โวลิแบร์ยังเป็นตัวแทนของพลังและความกราดเกรี้ยวของเฟรย์ลยอร์ดที่ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งได้ โวลิแบร์และวงศ์วานร่างกึ่งเทพของเขาเป็นผู้สร้างดินแดนที่พวกเขาเรียกว่าวอร์ริยาร์ดขึ้นมาเป็นเวลานานก่อนที่เผ่ามนุษย์จะปรากฏขึ้น มหาตำนานเล่าขานเรื่องราวที่เขาสร้างฟยอร์ดทั้งห้าขึ้นมาด้วยการตะปบอุ้งมืออันทรงพลังเพียงครั้งเดียว รวมทั้งศึกการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างเขากับรอนด์ งูยักษ์แมกม่าแสนดุร้ายซึ่งทำให้เกิดหุบเขาและโตรกธารจำนวนนับไม่ถ้วน จนกระทั่งเมื่อโวลิแบร์พิชิตสัตว์ร้ายตัวนั้นได้ในท้ายที่สุด เลือดของมันกลายเป็นแม่น้ำแห่งแรกในเฟรย์ลยอร์ด ส่วนซากร่างขนาดมหึมาของมันนั้นก็แปรสภาพเป็นเทือกเขาเวิร์มแบ็ก
ในยุคที่เพิ่งมีพวกชาวเผ่ารุ่นแรก เวทมนตร์ซึ่งไร้การควบคุมนั้นเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป โวลิแบร์เป็นที่เคารพเลื่อมใสของผู้คนทั้งปวงเนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องอาศัยพึ่งพาความแข็งแกร่งอันไร้เทียมทานของโวลิแบร์เขาเพื่อความอยู่รอด สงครามครั้งใหญ่ๆ ได้อุบัติขึ้น และโวลิแบร์ก็ก้าวสู่สนามรบพร้อมเหล่าบริวารของเขาในชุดเกราะจารึกอักษรรูนที่หล่อขึ้นโดยออร์นผู้เป็นพี่ชายของเขาและเป็นร่างกึ่งเทพแห่งการหล่อสร้าง ในตอนนั้น สายสัมพันธ์ของสองพี่น้องยังแน่นแฟ้น พวกเขามักจะร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่แม้ออร์นจะไม่เคยมีความรู้สึกกระหายการต่อสู้เช่นผู้เป็นน้องชาย โวลิแบร์ยินดีปรีดาในชัยชนะจากการต่อสู้ที่ได้มาอย่างยากลำบาก และยิ่งมีการนองเลือดมาสังเวยเขามากเท่าไร พลังของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนมากเท่านั้น
ในไม่ช้า โวลิแบร์และพี่ชายของเขาก็ห่างกันไป ต่างคนต่างมุ่งมั่นในเส้นทางของตนเอง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้มีความร้าวฉานใดเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของพวกเขา… จนกระทั่งเมื่อความคิดใหม่ๆ เริ่มเข้ามามีอำนาจเหนือความเชื่อดั้งเดิม
สตรีสามพี่น้องก้าวขึ้นมามีอำนาจและมุ่งจะควบคุมและจัดระเบียบดินแดนเฟรย์ลยอร์ด ส่วนฝ่ายพวกร่างกึ่งเทพนั้นยังไม่อาจตกลงร่วมกันได้ว่าควรเดินหน้าต่อไปเช่นไรดี สมาชิกบางรายอย่างเช่นอนิเวียนั้นดูหมือนจะโน้มเอียงไปในทางอยากร่วมมือกับทั้งสามพี่น้อง ในขณะที่โวลิแบร์และไอออนโบร์ต้องการทำลายพวกเขาให้พินาศ สมาชิกอื่นๆ ที่เหลือคงพอใจที่จะวางเฉยไม่ต้องไปสนใจไยดีพวกนางเนื่องจากพวกมนุษย์แสนจะอ่อนแอเหล่านี้ย่อมจะล้มหายตายไปก่อนหน้าพวกเขาอยู่แล้ว
โวลิแบร์หันไปหาพวกบริวารที่ดุร้ายและป่าเถื่อนที่สุดของเขาอันได้แก่เผ่าเออร์ไซน์ หากได้เออร์ไซน์มา เขาจะต้องเอาชนะสามพี่น้องนั่นได้อย่างแน่นอน โวลิแบร์ขอให้ออร์นสร้างอาวุธให้เหล่านักรบของเขาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศึกครั้งนี้
ทว่าออร์นกลับปฏิเสธ เขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางอันโหดร้ายป่าเถื่อนของเผ่าเออร์ไซน์ และการปะทะห้ำหั่นอันดุเดือดระหว่างทั้งร่างกึ่งเทพทั้งสองก็ได้อุบัติขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้โวลิแบร์แค้นเคืองผู้เป็นพี่ชายและเหวี่ยงชุดเกราะจารึกอักษรรูนของเขาทิ้งไป นับจากนี้ เขาจะต่อสู้โดยใช้เพียงคมเขี้ยว กรงเล็บ พละกำลัง และสายฟ้าเท่านั้น นอกจากจะไม่อ่อนแอลงแล้ว โวลิแบร์ยังพบว่าตอนนี้พลังของเขาได้รับการปลดปล่อยศักยภาพจนถึงขีดสูงสุดด้วย
ด้วยพลังความพิโรธที่เกิดขึ้นใหม่นี้ โวลิแบร์เผชิญหน้ากับหนึ่งในเหล่าสามพี่น้องที่หมายจะชิงพลังของเหล่าร่างกึ่งเทพไปครองเป็นของตน ต่อหน้าทหารของนางทั้งกองทัพ เขากระหน่ำโจมตีจนทำให้นางตาบอด แต่ทว่าเขาไม่สามารถหยุดยั้งสิ่งที่นางได้เริ่มก่อไว้แล้วได้
เมื่อเวลานับหลายศตวรรษผ่านไป และแม้ว่าโวลิแบร์จะได้พยายามต้านทาน แต่เผ่าต่างๆ ก็เริ่มหันไปเคารพและบูชาเหล่าไตรภคนีแทน
วิถีโบราณหลายอย่างถูกลืมเลือนไป เขาเห็นเผ่าต่างๆ ที่หดหัวอาศัยอยู่หลังกำแพงหินแทนที่จะเผชิญหน้ากับความดิบเถื่อนของธรรมชาติ เขามองเห็นท้องทุ่งที่ถูกหว่านไถและเกษตรกรที่ทำปศุสัตว์แทนที่จะออกไล่ล่า เขาแผดเสียงคำรามด้วยความกราดเกรี้ยวเมื่อเห็นแม่น้ำสายต่างๆ ถูกกั้นด้วยทำนบเขื่อนแทนที่จะถาโถมไหลได้อย่างเสรี นี่ไม่ใช่เฟรย์ลยอร์ดของเขา การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ก่อตัวขึ้นช้าๆ ดั่งธารน้ำแข็ง แต่แล้วในที่สุดโวลิแบร์ก็ตระหนักความจริงที่ว่าเผ่าต่างๆ ถูกตัดขาดจากวิญญาณธรรมชาติแห่งดินแดนซึ่งส่งผลให้พวกเขาทั้งเปราะบาง ยอมจำนนและปวกเปียก พวกคนอ่อนแอเหล่านี้หมดสิ้นความเคารพนับถือต่อวิถีดั้งเดิมหรือเทพเจ้าแห่งกาลเก่า
ทั้งโทสะและความมุ่งมั่นปะทุเดือดอยู่ในกายเขา โวลิแบร์ปฏิญาณว่าจะต้องทำลายล้างอารยธรรมทั้งหมดให้สิ้นซากและทำให้เฟรย์ลยอร์ดกลับมาเป็นดินแดนแห่งธรรมชาติอันแท้จริงดั่งสมัยโบราณ ผู้คนเหล่านี้จะต้องกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เขาจะกลับมาเป็นที่ยกย่องและเกรงขามของผู้คนทั้งปวงอีกครา
เมื่อเจตนารมณ์ของโวลิแบร์ถูกประกาศก้องไปทั่วทั้งเขตภูเขาและที่ราบของแดนเหนือ ชาวเฟรย์ลยอร์ดที่ปวารณาตนเข้าร่วมก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ วิถีดั้งเดิมค่อยๆ ถูกกลับมาเป็นที่จดจำและยึดถือปฏิบัติอีกครั้ง และความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มทวีทุกครั้งที่มีสาวกเพิ่มขึ้น
ศึกพิพากษานองเลือดรออยู่ข้างหน้า… และโวลิแบร์ก็กำลังปรี่เข้าไปหามัน
ที่มา (https://universe.leagueoflegends.com/th_TH/story/champion/volibear)